บทความ

Mini Project

#!/usr/bin/env python # -*- coding: utf-8 -*- import os def cuboid() : w=0 l=0 h=0 print ('='*20) print (" คำนวณปริมาตรของลูกบาศก์สี่เหลี่ยม ") w = input(" ป้อนขนาดความกว้าง :") l = input(" ป้อนขนาดความยาว :") h = input(" ป้อนขนาดความสูง :") print ('_'*20) result=" รูปสี่เหลี่ยมกว้าง = "+str(w)+" หน่วย " print (result) result=" รูปสี่เหลี่ยมยาว = "+str(l)+" หน่วย " print (result) result=" รูปสี่เหลี่ยมสูง = "+str(h)+" หน่วย " print (result) result=" ปริมาตรของลูกบาศก์สี่เหลี่ยม = "+str(w*l*h)+" หน่วย " print (result) print ('='*20) return def sphere (): r=0 print ('='*20) print (" คำนวณปริมาตรของทรงกลม ") r = input(" ป้อนรัศมีทรงกลม :") print ('_'*20) result=" รัศมีของทรงกลม = "+str(r)+" หน่วย ...

ใบงานที่ 4

รูปภาพ
ใบงานที่ 4 จงเขียนโปรแกรมคำนวณรุปเลขาคณิตต่อไปนี้ 1.เขียนโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่สามเหลี่ยม 2.เขียนโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมคางหมู 3.เขียนโปรแกรมคำนวณสี่เหลี่ยมผืนผ้า 4.เขียนโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมมุมฉาก 5.เขียนโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่ครึ่งวงกลม

ใบงานที่ 5

รูปภาพ
ใบงานที่ 5 จุดประสงค์ 1. เพื่อให้สร้างเมนูโปรแกรมได้ 2. สร้างโปรแกรมย่อยได้   ผลการทดลอง  การทำงานของโปรแกรม   #!/usr/bin/env python   # -*- coding: utf-8 -*-   MenuTxt =("0. เมนู0","1. เมนู1","2. เมนู2", "3. เมนู3") //คำสั่งสร้างตัวแปรเก็บข้อลมูล 3 ลำดับ   print (MenuTxt [0])  //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 0 ของตัวแปร MenuTxt  ทางหน้าจอ   print (MenuTxt [1])  //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 1 ของตัวแปร MenuTxt  ทางหน้าจอ   print (MenuTxt [2])  //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 2 ของตัวแปร MenuTxt  ทางหน้าจอ   print (MenuTxt [3])  //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 3 ของตัวแปร MenuTxt  ทางหน้าจอ   menu=0 //คำสั่งให้ menu เท่ากับ 0   while menu<1: //คำสั่งตั้งเงื่อนใขให้ข้อมูลในตัวแปรไม่น้อยกว่า 1        menu = input ("กรุณาเมนุ 0-3 :")        if menu<4 : //การทำงานของคำสั่งคือถ้าข้อมูลใน menu น้อยกว่า 4 ให้ไปที่คำสั่ง else     ...

ใบงานที่ 3.3 การจัดการดิกชันนารี

ใบงานที่  3.3 การจัดการดิกชันนารี จุดประสงค์ 1.  นักเรียนสามารถจัดการข้อมูลดิกชันนารีได้ 1.  โครงสร้างของดิกชันนารี          โครงสร้างของดิกชันนารีไม่เหมือนกับโครงสร้างของลิสต์หรือทูเพิล   แต่มีโครงสร้างของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง   ในลักษณะที่ดิกชันนารีจะต้องมีคีย์และข้อมูล เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้ จะขอยกตัวอย่างจากคำสั่ง numberDic = {1 : 'one', 2 : 'two', 3 : 'three', 4 : 'four'} คีย์ ได้แก่  1, 2, 3, 4  ข้อมูล   ได้แก่  'one', 'two', 'three', 'four' แต่ทั้งคีย์และข้อมูลจะต้องไปด้วยกัน เช่น ข้อมูลของคีย์  1  หมายถึง  'one'  เท่านั้น รูปแบบคำสั่ง ชื่อดิกชันนารี  = { คีย์  1:’ ข้อมูล 1’, คีย์  2:’ ข้อมูล 2’, คีย์  3:’ ข้อมูล 3’... คีย์  N:’ ข้อมูล N’} 2.  การเพิ่มข้อมูลเข้าไปในดิกชันนารี        การเพิ่มข้อมูลเข้าไปในดิกชันนารี ต้องระบ...
ใบงาน 3.2 การจัดการทูเพิล 1. นักเรียนสามารถจัดการข้อมูลลิสต์ได้      ทูเพิลมีลักษณะโครงสร้างคล้ายกับลิสต์ คือ สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก ๆ ในตัวแปรเดียวกัน แต่ทูเพิลจะเก็บข้อมูลคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก ทำให้ตำแหน่งของข้อมูลคงที่แน่นอนการเข้าถึงข้อมูลของทรูเพิลจึงได้รวดเร็วกว่า การเข้าถึงข้อมูลของลิตส์ การเข้าถึงข้อมูลโดยการระบุเลขดัชนีเช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกัน     และไม่สามารถเพิ่มลบข้อมูลได้โดยตรง จึงทำให้ต้องรู้  นอกจากนี้เมื่อต้องการเปลี่ยนชนิดข้อมูลจากทูเพิลไปเป็นลิสต์ สามารถใช้ฟังก์ชัน list() ได้ในทางกลับกัน สามารถเปลี่ยนจากลิสต์เป็นทูเพิลได้เช่นเดียวกัน ด้วยฟังก์ชัน tuple() ซึ่งเหมาะสำหรับแก้ปัญหาในกรณีที่ทูเพิลไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ จึงเปลี่ยนให้เป็นลิสต์เสียก่อนแล้วจึงเปลี่ยนแปลงข้อมูล หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนกลับเป็นทูเพิลดังเดิม คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทูเพิล มีดังตัวอย่างต่อไปนี้     1.การสร้างทรูเพิล มายถึง การสร้างตัวแปรเก็บข้อมูลแบบทรูเพิล มีวิธีการ คือ การกำหนดชื่อทรูเพิล และม...
ใบงานที่ 3 ใบงานที่  3.1 การจัดการข้อมูลและข้อความ การจัดการลิสต์ การจัดข้อมูลแบบลิตส์ มี  5  แบบได้แก่ 1.  การสร้างลิสต์   หมายถึง การสร้างตัวแปรเก็บข้อมูลแบบลิสต์ มีวิธีการ คือ การกำหนดชื่อลิสต์ และมีเครื่องหมายเท่ากับ  (=)  จากนั้นใช้เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยมเปิด  ([)  แล้วมีข้อมูลที่ต้องการเก็บอยู่ในเครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยมเปิดและปิด ถ้าต้องการเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขใช้เพียงเครื่องหมายจุลภาค  (,)  คั่นกลางระหว่างข้อมูล แต่ถ้าเป็นข้อมูลชนิดสายอักขระให้พิมพ์ไว้ในเครื่องหมายอัญประกาศ ("") รูปแบบคำสั่ง ชื่อลิสต์  = [  ข้อมูลลำดับที่ 0,  ข้อมูลลำดับที่ 1,  ข้อมูลลำดับที่ 2, ... ข้อมูลลำดับสุดท้าย  ] ตัวแปรลิตส์มีการเก็บข้อมูล  4  ลักษณะได้แก่ 1.1  ลิตส์แบบเก็บข้อมุลเลขจำนวนอย่างเดียว   MyList = [2550, 2551, 2552, 2553, 2554]  ผลการทดลอง              จากการทดลอง จะยังไม่มีการแสดงตัวเลข การทำงานของคำสั่ง     ...